วันที่ 1 เมษายน 2562 คล้ายวันสถาปนากรมทางหลวง ปีนี้ครบ 107 ปี แล้ว ก็ยังทำหน้าที่ กรรมการสมาคมทางหลวงแห่งประเทศไทย ที่ไปร่วมวางพวงมาลาให้แก่วีรบุรุษผู้กล้า กรมทางหลวง ส่วนมากเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ มีวิศวกร หรือนายช่างคนเดียว เป็นเพื่อนร่วมรุ่น วิศว จุฬาฯ 07 อยู่ด้วยคือ นายพิพัฒน์ ใยบัวเทศ นายช่างโครงการสายแม่สอด - อุ้มผาง ก็เหมือนทุกปี ร้อนมาก หาที่จอดรถยากมาก ทั้งที่ควรจะมีการพัฒนาจัดการได้ดีกว่านี้ - อยากแนะนำ เผื่อปีหน้าอาจจะมีการจัดที่จอดรถให้กับแขกรับเชิญ ให้สะดวกขึ้นบ้าง // บริเวณตักบาศต์พระ ลานจอดรถนั้น หลังพิธีตักบาศต์แล้ว ราว 7.15 น รีบย้ายโต๊ะออกตั้งไว้ริมรั้ว ราว 7.30 น. ก็จะมีที่จอดรถได้อีกจำนวนมาก เฉพาะแขกที่มาร่วมงาน โดยมอบบัตรจอดรถไปกับหนังสือเชิญด้วย ลองทำดูสักทีนะครับ

การประชุมสมาคมทางหลวง มีสมาชิกแค่กรรมการบางส่วน และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่ง เพราะกรรมการถูกรัฐมนตรีเรียกไปสั่งราชการ ในวันสถาปนากรม และคนกรมทางหลวง ที่เป็นสมาชิกของสมาคม ไม่รู้สึกผูกพันกับสมาคมทางหลวง เหมือนในอดีต ที่ผู้บริหารระดับสูงให้ความสำคัญกับกิจกรรมของสมาคมทางหลวงมาก เพราะเป็นหน้าตาของหน่วยงานทางในสายตาต่างประเทศ - แต่ปัจจุบัน ไม่แน่ใจว่าผู้บริหารให้การสนับสนุน และเห็นถึงความสำคัญของสมาคมทางหลวงเพียงใด อย่างไร

สมาคมทางหลวงนั้น ก่อตั้งขึ้นในสมัย ท่านอดีตอธิบดี เฉลียว วัชรพุกข์ เพื่อเป็นศูนย์กลางของผู้ทำงานทางทั้งภาครัฐและเอกชน และเพื่อเป็นศูนย์กลางที่ติดต่อกับสมาคมทางหลวงต่างชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์งานทางกัน และสมาคมยังเป็นสมาชิกของ Road Engineering Association of Asia and Australasia ซึ่งเป็นสมาคมทางหลวงที่รวมหลายๆประเทศ สมาคมเคยจัดงานสัมมนาทางวิชาการที่ใหญ่ยิ่งและมีต่างชาติมาร่วมเสนอผลงานวิชาการและอื่นๆมากมาย เมื่อก่อนนั้น ประเทศไทยมีบทบาทมากใน REAAA และเป็นสมาคมทางหลวงที่ active มากๆ เพราะผู้บริหารระดับสูงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง จากท่านเฉลียว ต่อมาก็ อ.มนัส คอวณิชย์ ท่าน นิพนธ์ รนะนันท์ ดร ธีรชาติ รื่นไกรฤกษ์ แล้วก็ค่อยๆเงียบลงๆ จึงขอนำเสนอให้ ผู้บริหารองค์กรงานทางทั้งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท หรือการทางพิเศษ ให้ความสนใจต่อกิจกรรมของสมาคมทางหลวงด้วย เพราะเป็นหน้าตาขององค์กรงานทางทุกองค์กรของประเทศไทยทั้งประเทศ มิใช่เฉพาะกรมทางหลวง